jasongarrison/JesusBro
Updated
Error code: DatasetGenerationError Exception: ArrowInvalid Message: Failed to parse string: 'REFACE' as a scalar of type int64 Traceback: Traceback (most recent call last): File "/src/services/worker/.venv/lib/python3.9/site-packages/datasets/builder.py", line 1870, in _prepare_split_single writer.write_table(table) File "/src/services/worker/.venv/lib/python3.9/site-packages/datasets/arrow_writer.py", line 622, in write_table pa_table = table_cast(pa_table, self._schema) File "/src/services/worker/.venv/lib/python3.9/site-packages/datasets/table.py", line 2292, in table_cast return cast_table_to_schema(table, schema) File "/src/services/worker/.venv/lib/python3.9/site-packages/datasets/table.py", line 2245, in cast_table_to_schema arrays = [ File "/src/services/worker/.venv/lib/python3.9/site-packages/datasets/table.py", line 2246, in <listcomp> cast_array_to_feature( File "/src/services/worker/.venv/lib/python3.9/site-packages/datasets/table.py", line 1795, in wrapper return pa.chunked_array([func(chunk, *args, **kwargs) for chunk in array.chunks]) File "/src/services/worker/.venv/lib/python3.9/site-packages/datasets/table.py", line 1795, in <listcomp> return pa.chunked_array([func(chunk, *args, **kwargs) for chunk in array.chunks]) File "/src/services/worker/.venv/lib/python3.9/site-packages/datasets/table.py", line 2102, in cast_array_to_feature return array_cast( File "/src/services/worker/.venv/lib/python3.9/site-packages/datasets/table.py", line 1797, in wrapper return func(array, *args, **kwargs) File "/src/services/worker/.venv/lib/python3.9/site-packages/datasets/table.py", line 1949, in array_cast return array.cast(pa_type) File "pyarrow/array.pxi", line 996, in pyarrow.lib.Array.cast File "/src/services/worker/.venv/lib/python3.9/site-packages/pyarrow/compute.py", line 404, in cast return call_function("cast", [arr], options, memory_pool) File "pyarrow/_compute.pyx", line 590, in pyarrow._compute.call_function File "pyarrow/_compute.pyx", line 385, in pyarrow._compute.Function.call File "pyarrow/error.pxi", line 154, in pyarrow.lib.pyarrow_internal_check_status File "pyarrow/error.pxi", line 91, in pyarrow.lib.check_status pyarrow.lib.ArrowInvalid: Failed to parse string: 'REFACE' as a scalar of type int64 The above exception was the direct cause of the following exception: Traceback (most recent call last): File "/src/services/worker/src/worker/job_runners/config/parquet_and_info.py", line 1417, in compute_config_parquet_and_info_response parquet_operations = convert_to_parquet(builder) File "/src/services/worker/src/worker/job_runners/config/parquet_and_info.py", line 1049, in convert_to_parquet builder.download_and_prepare( File "/src/services/worker/.venv/lib/python3.9/site-packages/datasets/builder.py", line 924, in download_and_prepare self._download_and_prepare( File "/src/services/worker/.venv/lib/python3.9/site-packages/datasets/builder.py", line 1000, in _download_and_prepare self._prepare_split(split_generator, **prepare_split_kwargs) File "/src/services/worker/.venv/lib/python3.9/site-packages/datasets/builder.py", line 1741, in _prepare_split for job_id, done, content in self._prepare_split_single( File "/src/services/worker/.venv/lib/python3.9/site-packages/datasets/builder.py", line 1897, in _prepare_split_single raise DatasetGenerationError("An error occurred while generating the dataset") from e datasets.exceptions.DatasetGenerationError: An error occurred while generating the dataset
Need help to make the dataset viewer work? Make sure to review how to configure the dataset viewer, and open a discussion for direct support.
Book
int64 | Page
int64 | LineNumber
int64 | Text
string |
---|---|---|---|
1 | 1 | 1 |
คำนำ
|
1 | 1 | 2 |
วิธีแสดงไวยากรณ์ของตันติภาษา [ ภาษามีแบบแผน ] นั้น
|
1 | 1 | 3 |
นักปราชญ์ทั้งหลายได้จัดไว้เป็นหมวดหมู่ละม้ายคล้ายคลึงกัน จนให้
|
1 | 1 | 4 |
สันนิษฐานได้ว่า ภาษาเหล่านี้คงจะมีอริยกภาษาเป็นมูลเดิม จะขอ
|
1 | 1 | 5 |
กล่าวย่อ ๆ แต่ภาษาที่ข้าพเจ้าได้ทราบอยู่บ้างเล็กน้อย คือบาลีภาษา ๑
|
1 | 1 | 6 |
สันสกฤตภาษา ๑ อังกฤษภาษา ๑ ในภาษาทั้ง ๓ นั้น ในบาลี
|
1 | 1 | 7 |
ภาษา นักปราชญ์ท่านจัดไวยากรณ์เป็นหมวด ๆ กัน ๙ หมวด ดังนี้
|
1 | 1 | 8 |
อักขรวิธี แสดงอักษรพร้อมทั้งฐานกรณ์เป็นต้น ๑ สนธิ ต่ออักษร
|
1 | 1 | 9 |
ที่อยู่ในคำอื่น ให้เนื่องเป็นอันเดียวกัน ๑ นาม แจกชื่อคน, สัตว์,
|
1 | 1 | 10 |
ที่, สิ่งของต่าง ๆ, สัพพนาม แจกศัพท์ ที่สำหรับใช้แทนนามที่
|
1 | 1 | 11 |
ออกชื่อแล้ว เพื่อจะได้ไม้เรียกซ้ำให้รกโสต ๒ อย่างนี้พร้อมทั้งลิงคะ
|
1 | 1 | 12 |
วจนะ วิภัตติ ๑ สมาสย่อนามตั้งแต่ ๒ ขึ้นไป ให้เป็นบทเดียวกัน ๑
|
1 | 1 | 13 |
ตัทธิต ใช้ปัจจัยแทนศัพท์ให้น้อยลง มีเนื้อความได้เต็มที่ ๑ อาขยาต
|
1 | 1 | 14 |
แจกกิริยาศัพท์ พร้อม วจนะ บุรุษ วิภัตติ กาล บอก กัตตุ
|
1 | 1 | 15 |
กรรม และภาพ ๑ กฤต ใช้ปัจจัยเป็นเครื่องกำหนดรู้สาธนะหรือ
|
1 | 1 | 16 |
กาล ๑ อุณณาทิ มีวิธีใช้ปัจจัยคล้ายกฤต แต่มักเป็นปัจเจกปัจจัย
|
1 | 1 | 17 |
โดยมาก ๑ การก แสดงลักษณะของคำพูด ๑ ถ้านับรวมทั้ง
|
1 | 1 | 18 |
ฉันทลักษณะที่ท่านจัดไว้ เป็นหมวดหนึ่งต่างหาก มิได้สงเคราะห์เข้า
|
1 | 1 | 19 |
ในมูลไวยากรณ์ก็เป็น ๑๐ หมวด.
|
1 | 1 | 20 |
ในสันสกฤตภาษา ก็ไม่สู้จะต่างจากบาลีภาษา ต่างกันเล็ก
|
1 | 1 | 21 |
น้อย ในสันสกฤต มีวจนะเป็น ๓ คือ เอกวจนะ คำพูดถึงคง หรือ
|
1 | 2 | 1 |
ของสิ่งเดียว ๑ ทวิวจนะ คำพูดถึงคนหรือของ ๒ สิ่ง ๑ พหุวจนะ
|
1 | 2 | 2 |
คำพูดถึงคนหรือของมาก ๑. ส่วนในบาลีภาษามีวจนะแต่ ๒ คือ
|
1 | 2 | 3 |
เอกวจนะ ๑ พหุวจนะ ๑ และในภาษาสันสกฤตมีวิภัตติอาขยาต ๑๐
|
1 | 2 | 4 |
หมู่ ในบาลีภาษามีแต่ ๘ หมู่เป็นต้น. ในอังกฤษภาษา นักปราชญ์ชาว
|
1 | 2 | 5 |
ประเทศนั้น แบ่งไวยากรณ์ ( GRAMMAR ) ของตน เป็น ๔ ส่วน
|
1 | 2 | 6 |
เรียกชื่อว่า ORTHOGRAPHY สอนให้ว่าและเขียนถ้อยคำนั้น ๆ
|
1 | 2 | 7 |
ให้ถูกต้องตามตัวอักษรเหมือนกับอักขรวิธีในบาลีภาษา ๑ ETYMO-
|
1 | 2 | 8 |
LOGY แสดงประเภทแห่งถ้อยคำนั้น ๆ ที่ออกจากต้นเดิมของตน ๆ
|
1 | 2 | 9 |
เหมือนกับนามเป็นต้นในบาลีภาษา ๑ SYNTAX เรียบเรียงมาตรา
|
1 | 2 | 10 |
แห่งถ้อยคำนั้น ๆ ที่กล่าวมาในเอติโมโลยี ส่วนที่ ๑ แล้ว ให้เป็นประโยค
|
1 | 2 | 11 |
เหมือนกับการกในบาลีภาษา ๑ PROSODY แสดงวิธีอ่านเสียง
|
1 | 2 | 12 |
หนัก เบา ยาว สั้น ดัง ค่อย หยุดตามระยะที่สมควร และวิธีแต่งโคลง
|
1 | 2 | 13 |
กลอน เหมือนกับฉันทลักษณะในบาลีภาษา ๑ แต่ในเอติโมโลยีส่วน
|
1 | 2 | 14 |
ที่ ๒ นั้น แบ่งออกเป็นวจนวิภาค ๙ ส่วน คือ NOUN คำพูดที่เป็น
|
1 | 2 | 15 |
ชื่อคน , ที่, และสิ่งของ ตรงกันกับนามศัพท์ ๑ ADJECTIVE คำพูด
|
1 | 2 | 16 |
สำหรับเพิ่มเข้ากับนามศัพท์ เพื่อจะแสดงความดีหรือชั่วของนามศัพท์นั้น
|
1 | 2 | 17 |
ตรงกับคุณศัพท์หรือบทวิเศษ ๑ ARTICLE คำพูดสำหรับนำหน้า
|
1 | 2 | 18 |
นามศัพท์ เพื่อเป็นเครื่องหมายนามศัพท์ ที่คนพูดและคนเขียน
|
1 | 2 | 19 |
นิยมและไม่นิยม อาการคล้ายกับ เอก ศัพท์ ต ศัพท์ ที่สำเร็จรูป
|
1 | 2 | 20 |
เป็น เอโก เป็น โส แต่จะว่าเหมือนแท้ก็ไม่ได้ เพราะอาติกล A
|
1 | 2 | 21 |
หรือ AN ท่านไม่ได้สงเคราะห์เข้าในสังขยา มีคำใช้ในสังขยาที่
|
1 | 3 | 1 |
แปลว่าหนึ่งต่างหาก ส่วนเอกศัพท์นี้ สงเคราะห์เข้าในสังขยา และ
|
1 | 3 | 2 |
อาติกล THE เล่า ก็ไม่เหมือน ต ศัพท์แท้ เพราะมีคำอื่นที่ใช้เหมือน
|
1 | 3 | 3 |
ต ศัพท์ อนึ่ง เอก ศัพท์และ ต ศัพท์นั้น เป็นศัพท์นาม อาติกลนี้
|
1 | 3 | 4 |
ท่านมิได้สงเคราะห์เข้าในศัพท์นาม แต่นักปราชญ์ทั้งหลายชั้นหลัง ๆ
|
1 | 3 | 5 |
พิจารณาเห็นว่า อาติกลนี้ ไม่ต่างอะไรกับคุณศัพท์ [ คำพูดที่ ๒ ]
|
1 | 3 | 6 |
ไม่ควรจะยกเป็นแผนกหนึ่งต่างหาก จึงสงเคราะห์เข้าเสียในคุณศัพท์
|
1 | 3 | 7 |
คงเหลือวจนวิภาคแต่ ๘ ส่วนเท่านั้น ๑, PRONOUN คำพูดสำหรับใช้
|
1 | 3 | 8 |
แทนนามศัพท์ เพื่อจะได้ไม่ซึ่ง ๆ ซาก ๆ อันเป็นทีรำคาญโสต ตรงกัน
|
1 | 3 | 9 |
กับสัพพนาม ๑, VERB กิริยาศัพท์พร้อมวจนะ ( NUMBER ),บุรุษ
|
1 | 3 | 10 |
( PERSON ) วิภัตติ ( MOOD ) กาล ( TENSE ) จัดเป็นสกัมมธาตุ
|
1 | 3 | 11 |
กัตตุกิริยา ( ACTIVE VERB ) กัมมกิริยา ( PASSIVE VERB )
|
1 | 3 | 12 |
อกัมมธาตุ ( NEUTER VEREB ) อัพยยกิริยา ( INFINITIVE )
|
1 | 3 | 13 |
กฤตกิริยา ( PARTICIPLE ) ๑ , ADVERB คำพูดสำหรับเพิ่มเข้ากับ
|
1 | 3 | 14 |
กิริยาศัพท์และคุณศัพท์ บางทีกับแอดเวิบเอง เพื่อจะแสดงศัพท์เหล่านั้น
|
1 | 3 | 15 |
ว่าเป็นอย่างไร ดีหรือชั่ว เร็วหรือช้า เป็นต้น เหมือนคุณศัพท์
|
1 | 3 | 16 |
สำหรับเพิ่มเข้ากับนามศัพท์ฉะนั้น ตรงกับกิริยาวิเศษ และอัพยยศัพท์
|
1 | 3 | 17 |
และอุปสัค ๑, PREPOSITION เป็นวิภัตติสำหรับวางหน้านามศัพท์
|
1 | 3 | 18 |
หลังกิริยาศัพท์ด้วยกัน เพื่อจะแสดงให้ศัพท์นั้นมีเนื้อความ
|
1 | 3 | 19 |
เนื่องกัน แสดงอุทาหรณ์ในภาษาสยามเหมือนหนึ่งว่าศัพท์คือ เสื้อคน
|
1 | 3 | 20 |
มีความเป็น ๒ อย่าง ครั้นลง เปรโปสิชัน คือ ของ หน้านามศัพท์
|
1 | 3 | 21 |
คือ คน ก็ได้ความเป็นอันเดียวกันว่า " เสื้อของคน " จะเทียบ
|
1 | 4 | 1 |
ด้วยบาลีภาษา หรือ สันสกฤตภาษา ก็ไม่ชัดความ เพราะภาษาทั้ง ๒
|
1 | 4 | 2 |
ไม่ใช้เปรโปสิชันตรง เหมือนภาษาอังกฤษและภาษาสยามของเรา
|
1 | 4 | 3 |
ใช้เปลี่ยนที่สุดนามศัพท์นั้น ๆ เอง ตามความที่จะต้องลงเปรโปสิชัน
|
1 | 4 | 4 |
เหมือนภาษาลตินและภาษาคริก แต่ข้าพเจ้าเห็นหนังสือไวยากรณ์บาลี
|
1 | 4 | 5 |
และสันสกฤต ที่นักปราชญ์ชาวยุโรปแต่งไว้ ท่านแสดงเปรโปสิชันว่า
|
1 | 4 | 6 |
เป็นอุปสัค ข้าพเจ้ายังจับเหตุไม่ได้ เพราะเห็นวิธีที่ใช้ เปรโปสิชัน ใน
|
1 | 4 | 7 |
ภาษาอังกฤษอย่างหนึ่ง ใช้วิธีอุปสัคในภาษาบาลีอย่างหนึ่ง ไม่เหมือน
|
1 | 4 | 8 |
กัน ถ้าจะเทียบแล้ว เห็นว่าอุปสัคคล้ายแอดเวิบ คือกิริยาวิเศษ
|
1 | 4 | 9 |
เพราะนำหน้ากิริยา เพื่อจะแสดงกิริยานั้นให้ดีขึ้นหรือให้ชั่วลง จะเห็น
|
1 | 4 | 10 |
ง่ายกว่า ๑, CONJUNCTION คำพูดสำหรับต่อศัพท์หรือประโยคให้
|
1 | 4 | 11 |
เนื่องกัน ตรงกับนิบาตบางพวกมี จ และ วา เป็นต้น ที่นักปราชญ์
|
1 | 4 | 12 |
ชาวยุโรปให้ชื่อว่า PARTICLE OR INDECLINABLE ๑,
|
1 | 4 | 13 |
INTERJECTION คำพูดสำหรับแสดงความอัศจรรย์หรือความตกใจ
|
1 | 4 | 14 |
ตรงกันกับนิบาตบางพวกมี อโห เป็นต้น.
|
1 | 4 | 15 |
เอติโมโลยี ส่วนที่ ๒ ท่านแจกออกไปเป็น ๙ อย่างบ้าง
|
1 | 4 | 16 |
๘ อย่างบ้าง ดังนี้.
|
1 | 5 | 1 |
บาลีไวยากรณ์
|
1 | 5 | 2 |
บาลีไวยากรณ์นี้แบ่งเป็น ๔ ภาคก่อน คือ อักขรวิธี ๑ วจีวิภาค ๑
|
1 | 5 | 3 |
วากยสัมพันธ์ ๑ ฉันทลักษณะ ๑.
|
1 | 5 | 4 |
[ ๑ ] อักขรวิธี ว่าด้วยอักษร จัดเป็น ๒ คือ สมัญญาภิธาน
|
1 | 5 | 5 |
แสดงชื่ออักษร ที่เป็นสระ และพยัญชนะ พร้อมทั้งฐานกรณ์ ๑
|
1 | 5 | 6 |
สนธิ ต่ออักษรที่อยู่ในคำอื่น ให้เนื่องเป็นอันเดียวกัน.
|
1 | 5 | 7 |
[ ๒ ] วจีวิภาค แบ่งคำพูดออกเป็น ๖ ส่วน คือ นาม ๑
|
1 | 5 | 8 |
อัพยยศัพท์ ๑ สมาส ๑ ตัทธิต ๑ อาขยาต ๑ กฤต ๑.
|
1 | 5 | 9 |
[ ๓ ] วากยสัมพันธ์ ว่าด้วยการก และประพันธ์ผูกคำพูดที่
|
1 | 5 | 10 |
แบ่งไว้ในวจีวิภาค ให้เข้าเป็นประโยคอันเดียวกัน.
|
1 | 5 | 11 |
[ ๔ ] ฉันทลักษณะ แสดงวิธีแต่งฉันท์ คือคาถาที่เป็น
|
1 | 5 | 12 |
วรรณพฤทธิ์และมาตราพฤทธิ์.
|
1 | 5 | 13 |
---------------------
|
1 | 5 | 14 |
อักขรวิธี ภาคที่ ๑
|
1 | 5 | 15 |
สมัญญาภิธาน
|
1 | 5 | 16 |
[ ๑ ] เนื้อความของถ้อยคำทั้งปวง ต้องหมายรู้กันด้วยอักขระ
|
1 | 5 | 17 |
เมื่ออักขระวิบัติแล้ว ก็เข้าใจเนื้อความยาก เพราะฉะนั้น ความเป็น
|
1 | 5 | 18 |
ผู้ฉลาดในอักขระ จึงมีอุปการะมาก คำว่าอักขระ ๆ นั้น ว่าตามที่
|
1 | 5 | 19 |
นักปราชญ์ท่านประสงค์ ก็เป็น ๒ อย่าง เป็นเสียงอย่าง ๑ เป็น
|
1 | 6 | 1 |
หนังสืออย่าง ๑ มีเนื้อความเป็นอันเดียวกัน เสียงก็ดี ตัวหนังสือ
|
1 | 6 | 2 |
ก็ดี ที่เป็นของชาติใด ภาษาใด ก็พอใช้ได้ครบสำเนียง ในชาตินั้น
|
หนังสือเปรียญ ประโยค ๑ ถึง ๙ จำนวน ๘๐ เล่ม
ชุดข้อมูลนี้ประกอบด้วยไฟล์ CSV หลายไฟล์
01/010001.csv
: เล่ม 1 หน้า 101/010002.csv
: เล่ม 1 หน้า 206/060001.csv
: เล่ม 6 หน้า 1จะมีเพียงบางเล่มที่เริ่มแปลกๆ ตามด้านล่าง
02/020029.csv
ไปถึง 02/020106.csv
03/030107.csv
ไปถึง 03/030156.csv
04/040151.csv
ไปถึง 04/040214.csv
05/050215.csv
ไปถึง 05/050258.csv
52/520227.csv
ไปถึง 52/520408.csv
53/530409.csv
ไปถึง 53/530678.csv
54/540715.csv
ไปถึง 54/541001.csv
from datasets import load_dataset
# Specify the data files
data_files = {
"010001": "01/010001.csv",
"010002": "01/010002.csv"
}
dataset = load_dataset("uisp/buddhist-theology", data_files=data_files)
print("Keys in loaded dataset:", dataset.keys()) # Should show keys for splits, like {'010001', '010002'}
# Convert a split to pandas for further processing
df_010001 = dataset['010001'].to_pandas()
print(df_010001.head())
df_010002 = dataset['010002'].to_pandas()
print(df_010002.head())
Book Page LineNumber Text
0 1 1 1 คำนำ
1 1 1 2 วิธีแสดงไวยากรณ์ของตันติภาษา [ ภาษามีแบบแผน ]...
2 1 1 3 นักปราชญ์ทั้งหลายได้จัดไว้เป็นหมวดหมู่ละม้ายคล...
3 1 1 4 สันนิษฐานได้ว่า ภาษาเหล่านี้คงจะมีอริยกภาษาเ...
4 1 1 5 กล่าวย่อ ๆ แต่ภาษาที่ข้าพเจ้าได้ทราบอยู่บ้างเล...
Book Page LineNumber Text
0 1 2 1 ของสิ่งเดียว ๑ ทวิวจนะ คำพูดถึงคนหรือของ ๒ ...
1 1 2 2 คำพูดถึงคนหรือของมาก ๑. ส่วนในบาลีภาษามีวจนะ...
2 1 2 3 เอกวจนะ ๑ พหุวจนะ ๑ และในภาษาสันสกฤตมีวิภั...
3 1 2 4 หมู่ ในบาลีภาษามีแต่ ๘ หมู่เป็นต้น. ในอังก...
4 1 2 5 ประเทศนั้น แบ่งไวยากรณ์ ( GRAMMAR ) ของตน ...
http://www.learntripitaka.com/
สพพทานํ ธมมทานํ ชินาติ การให้ธรรมชนะการให้ทั้งปวง