text
stringlengths
0
282k
ล่าสุด เจ้าตัวได้ออกมาอัพเดตอาการบาดเจ็บในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ว่ายังฟิตไม่เต็มร้อย แต่พอวิ่งจ๊อกได้บ้าง รอเช็คความฟิตอีกทีช่วงกลางเดือนตุลาคม รอลุ้นลงช่วงทีมโตโยต้า นัดชิงชนะเลิศ ในวันที่ 15 ตุลาคมนี้
“แน่นอนว่าในปีนี้บุรีรัมย์พลาดมาสองถ้วยแล้วทั้งโตโยต้าไทยลีก และเอฟเอคัพ ที่เราตกรอบไปก่อนหน้านี้ ทำให้เราต้องเอาถ้วยนี้มาให้ได้ มันเป็นถ้วยใบสุดท้ายที่เราได้ลุ้นในปีนี้”
ส่วนในเรื่องผลงานทีมช่วงที่ผ่านมา กัปตันทีมปราสาทได้แจงว่า “ปีนี้ทีมเราผลัดกันบาดเจ็บเยอะตั้งแต่ดิโอโก้ ตัวผมเอง โก ซุล กี และก็โน๊ต (จักรพันธ์ แก้วพรม) ทำให้สภาพทีมมันไม่สมบูรณ์เท่าไหร่สำหรับปีนี้ จังหวะปีนี้เราไม่สามารถยืนระยะได้ ปีหน้าจะต้องวางแผนกันใหม่”
โดยในนัดต่อไปของสโมสร บุรีรัมย์ ยุไนเต็ด จะลงทำการแข่งขันในถ้วย โตโยต้า ลีกคัพ รอบชิงชนะเลิศ พบกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต้ด ที่สนามศุภชลาศัย วันที่ 15 ตุลาคม เวลา 19.00 น.
วางบอลผ่านเว็บ “บิ๊กท๊อป” วราวุธ ศิลปอาชา นายใหญ่ “ช้างศึกยุทธหัตถี” สุพรรณบุรี เอฟซี เผยเตรียมจัดเกมสี่เส้าอุ่นเครื่องเตรียมความพร้อมไทยลีก 2017 โดยจะดึงทีมจากเจลีกเข้ามาร่วมการแข่งขัน
ข่าวความเคลื่อนไหวของทีม “ช้างศึกยุทธหัตถี” สุพรรณบุรี เอฟซี ทีมจากไทยลีก ล่าสุดทาง “บิ๊กท๊อป” วราวุธ ศิลปอาชา ประธานสโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี ได้ออกมาเผยว่าในช่วงเดือนมกราคมจะจัดการแข่งขันฟุตบอลสี่เส้า โดยจะดึงทีมจากเจลีกเข้ามาร่วมด้วย
“ตอนนี้เรารอให้จบการแข่งขันเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ก่อน และจะมีการวางแผนดันอีกครั้ง แต่ตอนนี้ที่มีก็จะเป็นการจัดการแข่งขันฟุตบอลสี่เส้า ซึ่งจะมีทีม โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส จากเจลีก ลีกสูงสุดจากประเทศญี่ปุ่นเข้าร่วมการแข่งขันด้วย ส่วนทีมไทยก็จะเป็นทาง “แข้งเทพ” แบงค็อก ยูไนเต็ด”
“ส่วนเรื่องซื้อขายนักเตะตอนนี้เราคงไม่คิดจะเสริมทัพแล้ว นักเตะที่เรามีอยู่ก็ศักยภาพดีอยู่ แถมเดี๋ยวนี้นักเตะไทยเราค่าตัวค่อนข้างที่จะสูง เราคงไปทุ่มซื้อไม่ไหว” บิ๊กท๊อป กล่าวทิ้งท้าย
การแทงบอลเต็ง
แทงบอลสเต็ป
ดาวน์โหลด Genting อังกเป็นคำรบสอในช่วงซัมเมอร์นี้อย่างแน่นเชลซี
บาคาร่าออนไลน์ แมตช์ฟุตบอลถ้วยขฝรั่งเศสรายการเฟร้นช์
เว็บยูฟ่าเบ็ด เองทั้งนี้สื่อสเปนระบุว่าบาเลนเซียพร้อม
เล่นคาสิโนออนไลน์
© 2018 เล่นบาคาร่าออนไลน์ ของทาง GClub คาสิโนออนไลน์
ธรรมเทศนาของหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร เรื่อง อย่าหลงเชื่อสังขารมาร – seksanpantu.wordpress.com
ข้ามไปยังเนื้อหา
๒๕๖๒ ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม
สยามศิวิไลซ์ : seksanpantu.wordpress.com
สยามศิวิไลซ์ ฉบับที่ ๙ Diary Of a madman
อย่าหลงเชื่อสังขารมาร
๘ สิงหาคม ๒๕๑๐
บัดนี้ ถึงเวลานั่งสมาธิภาวนา การนั่งสมาธิภาวนานี้ให้นั่งขัดสมาธิเอาขาขวาทับขาซ้าย เอามือข้างขวาทับมือข้างซ้าย ตั้งกายให้เที่ยงตรง หลับตา เพราะเวลานั่งสมาธิภาวนานี้เป็นเวลาหยุด ไม่มีการยืน การเดิน ไม่ต้องใช้ตาก็ได้
เพราะพระธรรมวินัยคำสอนของพระองค์ที่ท่านตรัสไว้มากมายประการใดก็ตาม เมื่อย่นย่อเข้ามาแล้วก็เพื่อยังดวงจิต ดวงใจของเราให้สงบระงับ เพื่อละความโกรธ ความ
พระธรรมวินัยที่พระองค์ทรงแสดงตั้งแต่ตรัสรู้จนถึงวันปรินิพพาน ๔๕ พรรษา เมื่อท่านจัดเข้าในพระไตรปิฎกก็เรียกว่า พระสูตร พระวินัย พระปรมัตถ์ พระธรรม ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์
ร่างกายตัวตนของเราทุกวัน เมื่อจัดเข้าในหลักพระธรรมก็คือตู้พระไตรปิฎกนั่นเอง พระสูตร พระวินัย พระปรมัตถ์ก็คือกาย วาจา จิตของแต่ละบุคคล เพราะพระธรรมคำสอนของพระองค์ทั้งมวลนั้นต้องการให้สาวกผู้สดับรับฟังทั้งหลายประพฤติปฏิบัติ
คำว่าประพฤติปฏิบัติก็ให้เราท่านทั้งหลายทำความดี มีการรักษาศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗ ทำสมาธิภาวนาจนให้เกิดปัญญา ท่านจึงรวมเข้าในไตรสิกขาว่าศีล สมาธิ ปัญญา
คือเราจะนั่งตอนเช้า สังขารมารก็คอยบอกว่ายังเช้านัก ยังไม่นั่งสมาธิภาวนาก็ได้ สายๆหน่อยนั่งก็ไม่เป็นไร ทีนี้ถ้าเราไปเชื่อมั่นตอนเช้าก็ตกไป ไม่ได้นั่งสมาธิภาวนา
ทีนี้เมื่อถึงเวลาสาย บางวันก็ลืมไปเลย บางวันก็นึกได้ พอนึกได้จะทำท่าลุกขึ้นนั่งสมาธิภาวนา สังขารมารมันก็ว่าอีกแหละ ไม่ต้องนั่งก็ได้ท่าน หลังฉันหรือบริโภคอาหารแล้วท้องก็ยังอืดๆอยู่ พักผ่านเสียก่อนก็ได้ ตอนบ่ายๆจึงค่อยนั่งก็ได้
ทีนี้ถ้าเชื่อสังขารมาร มันก็หลงไปตามอีกแหละ เลยที่ตอนเช้ามันบอกว่าสายแล้วก็ภาวนาได้ เมื่อถึงสายมันก็บอกว่าบ่ายก็ได้ ให้ท้องยุบเสียก่อนสบายดี ถ้าเชื่อละก็ไม่ได้นั่ง
ทีนี้ตอนบ่ายมันก็เอาอีก เลยลงท้ายที่สุด ตลอดวันตลอดคืนไปเชื่อสังขารมารไม่ได้เรื่อง
พระพุทธเจ้าก่อนที่พระองค์ยังไม่ได้ตรัสรู้ก็เพราะไปเชื่อสังขารมารตัวนี้ ผัดวันประกันพรุ่งอย่างโน้นอย่างนี้เรื่อยไป
นับแต่พระองค์ออกผนวช ๖ พรรษาจึงมาได้สติ ไม่เชื่อสังขารมาร คิดดูสิว่าวัที่พระองค์จะได้ตรัสรู้นั้น พระองค์ทรงทำสมาธิภาวนาผินหลังให้แก่ไม้โพธิ์ ผินหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือหน่อย
ในขณะที่พระองค์นั่งสมาธิครั้งนั้น พระองค์มีสัจจอธิษฐาน ตั้งอกตั้งใจเต็มที่ว่าการนั่งคืนนี้เป็นการนั่งอย่างเอาเป็นเอาตายทีเดียว พูดง่ายๆก็เรียกเอาเป็นเอาตายกัน จะไม่ลุกจากที่นั้นเป็นอันขาด ถ้าไม่ได้ตรัสรู้ ไม่ได้คุณความดีอันใดอันหนึ่งเกิดขึ้นในวันนั้นตายเสียที่นั้นดีกว่า เพราะพระองค์จับกลมารยาของสังขารมารได้ มันคอยโกหกพกลมพระองค์อยู่เสมอๆ เลยมันผลัดไปตามอาการเหล่านั้นอยู่เรื่อยไป จึงไม่ได้สำเร็จ
ในวันวิสาขะบูชานั้น พระองค์ไม่เคลื่อนที่ นั่งแล้วก็เป็นว่านั่ง ถึงกระนั้นในตำราโบราณท่านว่าพญามาราธิราชโจมตีอย่างขนาดหนัก พระองค์ก็ไม่ท้อถอย บอกว่าให้ลุกพระองค์ก็ไม่ลุก
ทำอย่างไร พระองค์กำหนดลมหายใจเข้า หายใจออก ลุกไปไหนก็จะต้องตายภายในร้อยปี ภายในแปดสิบปี พระองค์เพ่งลงที่ลมหายใจเข้า ลมหายใจออกนี้ว่า เห็นไหมที่ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก ถ้าเข้าไปแล้วออกไม่ได้ ติดขัดอย่างใดอย่างหนึ่งตายได้
พระองค์เอาลมหายใจเข้าออกอย่างเดียว ดูความตายทุกลมหายใจเข้าออก เพราะเวลานั้นยังไม่มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระพุทธก็พระองค์เองยังไม่ได้เป็นพระพุทธ มันเป็นผุดไปผุดมาตามสังขารมารนั้นตลอดกาล ไม่เป็นพุทธะได้
พระองค์ก็เอาความตายมาเตือนจิตพระองค์ทุกลมหายใจเข้า หายใจออก จนกระทั่งศรัทธาความเชื่อ ความเลื่อมใสบังเกิดขึ้นในจิต ในใจของพระองค์ว่ามันตายแน่ ที่แท้ก็คนเราตายมันก็ลมหายใจขาด ลมหายใจไม่มีนี่แหละมันตาย
พระองค์ก็เพ่งอยู่ในลมเข้า ลมออก
พระองค์ก็เพ่งให้มันเห็นว่าทุกลมหายใจเข้าออกมันตายแน่ ใครที่เกิดมาในโลกไม่ตายมันไม่มี ไม่ตายเวลาเด็กก็ตายในเวลาหนุ่ม ไม่ตายเวลาหนุ่มก็แก่ชรามันตาย
ตัวเราก็ต้องตาย อย่างนี้ ก่อนที่จะถึงวันตายควรให้ได้ละกิเลส ราคะ โทสะ โมหะให้หมดไป สิ้นไป เรียกว่า “ตรัสรู้”
บารมีทั้ง ๑๐ ประการที่พระองค์บำเพ็ญมาเต็มบริบูรณ์แล้วเข้ามารวมอยู่ในจิตดวงที่มีความรู้สึกอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก ในดวงจิตของพระองค์นั้นเรียกว่าหนักแน่นเหมือนแผ่นดิน
แผ่นดินภายนอกยังมีแผ่นดินไหวได้ ส่วนน้ำพระทัย ใจของพระพุทธเจ้าเมื่อระลึกถึงทาน ศีล ภาวนาเข้ามารวมที่ลมหายใจเข้าออก ทุกสิ่งทุกอย่างมารวมที่ดวงใจ มั่นคงหนักแน่นยิ่งกว่าพสุธาหน้าแผ่นดิน ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งใดๆทั้งหมด ชีวิตก็เสียสละลงไปได้ แม้จะตายในเวลานั้นพระองค์ก็ไม่กลัว
โบราณาจารย์เจ้าทั้งหลายท่านจึงแสดงรูปนิมิตว่านางธรณีมารีดน้ำมวยผมให้เป็นน้ำมหาสมุทร ทะเล พัดพาพญามาร เสนามาร กิเลสมารลงมหาสมุทร มีจรเข้เหรากินพวกพญามาร
เป็นบุคคลาธิษฐาน คำว่านางธรณีก็คือธรณีๆก็คือแผ่นดิน
เมื่อจิตใจของพวกเราทั้งหลายมั่นคงหนักแน่นเหมือนแผ่นดินแล้ว เอาแบบอย่างแผ่นดินแล้ว เป็นอันว่าสู้สังขารมารได้ สู้กิเลสพันห้า ตันหาร้อยแปดได้ ถ้าเอาใจอย่างแผ่นดิน
มนุษย์เกิดมาในโลกนี้ สมมติว่าแผ่นดินตอนนั้นเป็นประเทศนั้น ประเทศนี้ ทุบก่นเผาไฟ ทำอะไรทุกสิ่งทุกอย่างจนกระทั่งเอาระเบิดปรมาณู ไฮโตรเจนทิ้งลงไปในแผ่นดินๆก็เฉยอยู่อย่างนั้น
ถ้าจิตใจของสมณนักบวช นักบ้าน คฤหัสถ์ บรรพชิตเลื่อมใสในพุทธธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าจริงๆย่อมไม่มีความหวั่นไหวประการใด
แม้จะเหน็ดเหนื่อย เมื่อย หิวเป็นธรรมดาต้องกิน ต้องนอน ต้องอะไรต่ออะไรจิปาถะ มันเป็นเรื่องของธาตุ เป็นเรื่องของขันธ์ จิตใจอย่าได้หวั่นไหวไปตามอาการเหล่านั้น
เมื่อเราจะทำอะไร เป็นต้นว่าจะนั่งสมาธิภาวนาก็อย่าให้สังขาร กิเลสมารเหล่านี้มาหลอกลวง หรือจะสมาทานเนสัชชิกธุดงคกรรมฐาน(อธิษฐานไม่นอน)ก็ให้ตั้งใจมั่นลงไป อย่าไปกลัวว่ามันจะเกิดโรคอย่างนั้น มีภัยอย่างนี้
โรคภัยไข้เจ็บใดๆมันไม่เลยตายไปได้ แค่ตายเท่านั้นแหละ อดหลับอดนอน มันไปแค่ตายเท่านั้นแหละ อย่างมันแรงกล้าก็ตายเท่านั้น บอกสังขารมารให้มันรู้ไว้ว่าเราสู้ตาย ท่านรู้ไหมสังขารมาร ไม่ต้องมาหลอกลวงเราอีกต่อไป